เศรษฐกิจพอเพียงกับ Startup

Startup จะพอเพียงได้จริงหรือ…

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ เราเห็นธุรกิจ Startup ที่ประสบความสำเร็จมากมายทั้งในและต่างประเทศ จึงไม่น่าแปลกใจที่เรื่องราวเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่มากมายที่ต้องการจะสร้างธุรกิจ Startup ที่มีเป้าหมายในการเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่ในขณะที่รัฐบาลมีการส่งเสริมธุรกิจ Startup ที่จะสามารถขับเคลื่นให้ประเทศเดินหน้าและพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง เราจะสามารถนำเอาเศรษฐกิจพอเพียงที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหนังคนละเรื่องมาใช้ได้อย่างไรกัน เพราะธุรกิจต่างมุ่งแสวงหาสิ่งใหม่ ๆ รวมทั้งกำไรในการทำธุรกิจ ในขณะที่ความพอเพียงก็ดูเหมือนจะให้อยู่กับสิ่งที่มี …อย่างนั้นหรือ

ก่อนอื่น เรามาดูสถิติที่น่าตกใจปนน่าสนใจจากการรายงานของเว็บไซต์ Fortune ที่บอกว่า “กว่า 90% ของ Startup ไม่ประสบความสำเร็จ” ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ถูกถกขึ้นมาพูดคุยในแวดวงของผู้ประกอบการอยู่เสมอ และเหตุผลหลัก ๆ ของการทำ Startup แล้วไม่ประสบความสำเร็จก็คือ พวกเขาสร้างสินค้าที่ไม่มีใครต้องการขึ้นมา ทำให้ไม่เจอคนที่ต้องการสินค้าของพวกเขาในตลาด และทำให้ขาดรายได้ไปในที่สุด แล้วอีก 10% ที่เหลือ พวกเขาทำมันให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร และความพอเพียงจะเข้ามามีบทบาทอย่างไรได้

เมื่อเรามองเห็นธุรกิจ Startup ที่ตั้งเป้าหมายสูง คิดใหญ่ และมุ่งการทำกำไรอย่างรวดเร็วเป็นธุรกิจที่ไม่ได้มีความพอเพียง แต่เมื่อเราพูดถึงความพอเพียง สิ่งสำคัญที่เราต้องเข้าใจก็คือ ความ “พอ” ของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไป เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ

หลายคนมองว่า การตั้งเป้าหมายใหญ่คือความไม่พอดี แต่แท้จริงแล้ว การตั้งเป้าหมายใหญ่เกินตัวโดยไม่รอบคอบ ต่างหากที่เป็นความไม่พอดี เช่นเดียวกับการมีเงินทองมากก็ไม่ใช่ความไม่พอดี แต่การมุ่งเพียงแต่เงินทองโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างต่างหากคือความไม่พอดี

ถ้าหากใครได้ศึกษาเรื่องปรัชญาแห่งเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเข้าใจ ก็จะรู้ว่า เศรษฐกิจพอเพียงไม่เคยห้ามให้ใครรวย และไม่เคยห้ามใครคิดการใหญ่แต่อย่างไร เพราะแก่นของเศรษฐกิจพอเพียง ทั้ง 3 ห่วง 2 เงือนไข คือ การรู้จักตัวเอง มีเหตุมีผล และมีภูมิคุ้มกัน พร้อมกับ ความรู้และคุณธรรม ที่เราพูดถึงกันมาโดยตลอด ไม่มีเรื่องไหนเลยที่ห้ามเราก้าวหน้า  หากเราเข้าใจอย่างถ่องแท้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญของ Startup ได้อย่างดี และเราจะสามารถนำมาปรับใช้ได้ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม และหากจะเปรียบการแข่งขันของ Startup เสมือนกับสนามรบ เศรษฐกิจพอเพียงก็จะเป็นเกราะป้องกันชั้นดีสำหรับนักรบ

เป็นไปได้ไหมว่า 10% ที่เหลือของ Startup ที่ประสบความสำเร็จนั้น พวกเขารู้จักธุรกิจของพวกเขาว่า มีเป้าหมายอะไร รู้จักเสริมจุดเด่นและพัฒนาจุดด้อยอยู่เสมอ พวกเขาสร้างนวัตกรรมที่มีเหตุมีผลและช่วยแก้ไขปัญหาให้กับผู้คนได้บนพื้นฐานความเป็นจริง รวมทั้ง พวกเขารู้จักที่จะสร้างภูมิคุ้มกัน คือเรียนรู้ที่จะเข้าใจความเสี่ยงและบริหารความเสี่ยงนั้นได้ผ่านการวางแผนในการปรับเปลี่ยนตัวเองเสมอ  และท้ายที่สุด พวกเขามีความรู้ และดำเนินธุรกิจที่อยู่บนรากฐานของคุณธรรม ถ้าอย่างนั้น Startup แบบพอเพียงก็ย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอน ขอให้ศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยใจอย่างเข้าใจ