รับมืออย่างไรกับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19?
ธุรกิจโรงแรม ในส่วนของร้านอาหาร ที่ปิดการให้บริการสำหรับลูกค้าภายนอกที่ไม่ใช่แขกที่เข้าพักในโรงแรม หลายโรงแรมมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการด้วยบริการ Food Delivery รวมถึงออกโปรโมชั่นและเมนูอาหารชุดรูปแบบใหม่ในราคาย่อมเยา และอีกวิธีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของการขายห้องพัก เช่น ขายห้องพักระยะยาว แบบเหมาจ่าย ในราคาประหยัด แม้สถานการณ์ตอนนี้จะลำบาก แต่ใช่ว่าจะไม่มีทางออกเสียทีเดียว ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว ออม – อิชยา อักษรโศภณพันธุ์ พอแล้วดี The Creator รุ่น 4 เจ้าของ โรงแรม ณ สราญ บูทีค โฮเทล จังหวัดเชียงใหม่ มีวิธีปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด 19 อย่างไร? ใช้สิ่งใกล้ตัวต่อยอดไปสู่สิ่งใหม่ ๆ รึเปล่า? หรือใช้วิธีอะไรต่อยอดไปสู่ระยะยาว โดยที่ยังรักษาความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า ธุรกิจกับคู่ค้า ทั้งด้านช่วยเหลือสังคมต่างๆ ? อะไรคือสิ่งที่เราจะได้เรียนรู้ในความพร้อม เพื่อรับมือให้กับธุรกิจที่เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่

ทำไมถึงลุกมาช่วยเหลือสังคมในครั้งนี้?
เรารู้สึกว่าสถานการณ์ครั้งนี้หนักมาก ถึงขั้นวิกฤติเลย เราไม่สามารถเพิกเฉย หรือทำเป็นไม่รับรู้ถึงปัญหาได้ แน่นอน เราได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ในสังคมก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ยิ่งเราอยู่เชียงใหม่ด้วย ครั้งนี้หนักมาก เพราะไฟป่าและไวรัสมาพร้อมๆ กัน
หลังจากเราตั้งสติได้ เราต้องรีบคิดเรื่องการประคับประคองธุรกิจตัวเอง ขณะเดียวกัน ก็มานั่งคิดว่า เรามีศักยภาพอะไรบ้าง มีปัจจัยอะไรที่เราสามารถจะนำมาช่วยเหลือ หรือเกื้อกูลผู้อื่นไปด้วยได้ ตามกำลังความสามารถตัวเอง เพราะเรามีความเชื่อว่า ในฐานะคนๆ หนึ่งในสังคม เราต้องมีหน้าที่ในการช่วยเหลือสังคม หรือทำประโยชน์ต่อสังคมได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
เริ่มด้วยจากไฟป่าที่เกิดขึ้น ปีนี้รุนแรงหนักกว่าทุกปี ไฟป่าลามเป็นวงกว้าง เราประเมินตัวเองแล้ว จึงอาสาใช้โรงแรมที่ปิดอยู่ มาเป็น Hub รับของบริจาค เพื่อส่งต่อไปยังศูนย์ที่เราประสานงานไว้ เราพอทราบมาบ้างว่า เจ้าหน้าที่ทำงานหนักมาก อาจไม่มีเวลามารับโทรศัพท์ เราซึ่งมีเวลาว่างและถนัดในเรื่องการประสานงาน จึงอาสาทำด้านนี้ โดยจับคู่ความต้องการระหว่างผู้บริจาคกับหน่วยงานได้อย่างเหมาะสม ของที่มาบริจาคไม่มีสูญเปล่า เพราะได้ส่งมอบให้แต่ละหน่วยงานที่ตามความต้องการที่แท้จริงและผู้บริจาคก็มั่นใจได้
ระหว่างการรับบริจาคของดับไฟป่า ทางคาเฟ่ A Perfect Daughter ที่เป็นครัวของโรงแรมได้ทำอาหารบริจาคให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โดยมีเจ้าภาพร่วมบริจาคหลายท่าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของโรงแรมและคาเฟ่ เรายังทำเรื่องนี้ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้จนพัฒนามาเป็นโครงการ 30 กั๊ด (กั๊ดที่แปลว่า อิ่ม) จากสถานการณ์นี้ เราได้รับรู้ถึงความลำบากของเพื่อนร่วมสังคมของเราว่า หลายคนกลายเป็นคนตกงานกะทันหัน ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีข้าวกิน บางคนกลายเป็นคนไร้บ้าน โครงการนี้ เราทำข้าวกล่องแจก โดยส่งต่อข้าวกล่องให้กับบ้านเตื่อมฝัน ซึ่งเป็นกลุ่มอาสาสมัครที่ดูแลกลุ่มคนไร้บ้านอยู่นำไปแจกจ่าย คนที่ต้องการช่วยเหลือเพื่อนร่วมสังคมสามารถเลือกซื้อข้าวกล่องในจำนวนตามต้องการ โดยข้าวกล่องมีราคากล่องละ 30 บาทเท่านั้น เรามีหน้าที่ทำอาหารและอาสาสมัครจากบ้านเตื่อมฝันจะนำไปแจก
โครงการต่างๆ ที่เราทำ เราไม่ได้ทำเพียงลำพัง เราแค่เพียงเริ่มต้น แต่มันดำเนินได้เพราะมีลูกค้าโรงแรม ลูกค้าคาเฟ่ เพื่อนๆ ของเรา รวมถึงเพื่อนในสมาชิกกลุ่มปีนเขา (Thailand Mountaineering Club) ที่ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักของบริจาคแก่ทีมดับไฟป่า

ทำแล้วได้อะไร?
เราคิดว่า ถ้าเราไม่ทำคงเสียอะไรไปมากกว่า อย่างน้อยคงเสียใจที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรสักเล็กน้อยในช่วงที่สังคมกำลังลำบาก การได้ประคับประคองกันไปให้รอดเชื่อว่า มันคงจะดีกว่า
เราได้รับบทเรียนในการทำครั้งนี้ 2 เรื่อง เรื่องแรก คือ การเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างสามารถเริ่มต้นได้ด้วยตัวเรา และการจะทำอะไรให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องบรรลุเป้าหมายได้ เราไม่สามารถทำอะไรได้ตามลำพัง ทุกสิ่งที่ทำเรามีน้องสาวอีก 3 คนคือ อิ๋ว อิม เอี๊ยม ตลอดจนเพื่อนๆ ที่พร้อมช่วยเหลือทุกอย่าง มีครอบครัวเราที่เข้าใจ และยังมีลูกค้าที่พร้อมสนับสนุนทุกด้าน เรื่องที่สองคือการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้เร็วที่สุด โดยใช้สติปัญญา ความถนัด ความสามารถตัวเองให้เต็มศักยภาพและอยู่กับความเป็นจริงให้ได้ ตรงไหนไปต่อได้ ให้ไป ตรงไหนดูแล้วว่า ไม่ไหวต้องหยุด

การเป็นพอแล้วดี รับมือกับสถานการณ์นี้ยังไง?
เราสามารถยอมรับความจริงในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไว เพราะธุรกิจของเราอยู่ในพาร์ทท่องเที่ยว ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง เราต้องรีบหาข้อมูลและความรู้เพื่อรับมือกับปัญหาและวางแนวทางในการทำธุรกิจต่อไป คือ เราต้องไม่ตระหนกกับเรื่องนี้เกินไปนัก แต่ต้องตระหนักและเตรียมพร้อมให้มาก
หลังจากการที่ถูกลูกค้ายกเลิกการจองห้องพักเข้ามา เรารีบทำการยกเลิกให้ฟรี ไม่มีคิดค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มเติม จากนั้น ประกาศในทุกช่องทางsocial media ให้ลูกค้าเข้าใจถึงสถานการณ์นี้ และหากต้องการยกเลิกการจอง เรายินดีให้ยกเลิกฟรีเช่นกัน เพราะเราเชื่อว่า ลูกค้าของเราก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเช่นกัน
ในส่วนของการลงทุนตกแต่งเพิ่มเติมที่เราได้วางแผนไว้ได้ระงับไปก่อน เพราะต้องบริหารกระแสเงินสดให้ดีที่สุดเพราะเราคาดการณ์ว่า รายได้จากการขายห้องพักต้องหายไปอีกหลายเดือน ที่สำคัญเราต้องเจรจากับคู่ค้าให้ไวที่สุด ของที่สั่งจองไว้ แต่ไม่จำเป็นในช่วงนี้ ถ้าคู่ค้าให้ยกเลิกได้ ให้ยกเลิกไปก่อน ถ้ายกเลิกไม่ได้ เราซื้อไว้เท่ากับจำนวนขั้นต่ำที่ทางร้านกำหนดไว้เท่านั้น ด้วยความที่เราเป็นโรงแรมขนาดเล็ก ค่าใช้จ่ายไหนที่ขอเครดิตได้ เราทำหมด เช่นกรณีที่ทางการไฟฟ้าสนับสนุนให้ผ่อนจ่ายค่าไฟโดยไม่มีดอกเบี้ย เราก็สมัครเข้าร่วมโครงการ
จากนั้น กลับมาโฟกัสในส่วนของรายได้ที่จะเกิดได้ในช่วงนี้คือ คาเฟ่ของเรา ซึ่งได้รับผลกระทบเหมือนกัน เราจึงต้องปรับตัวในเรื่องการขายแบบ delivery และปรับการขายห้องพักเป็นแบบรายสัปดาห์ รายเดือนแทน และจัดบรรยากาศในห้องพักที่เอื้อต่อการ Work From Home ที่สุด

ระหว่างกำไรและการสร้างประโยชน์ให้สังคม คุณมองสองเรื่องนี้และให้ลำดับความสำคัญกับมันอย่างไร?
เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่ากัน ในภาวะปกติ ถ้าเราทำธุรกิจแล้วไม่ได้กำไร เราอาจสร้างความลำบาก ความทุกข์ใจกับคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนในครอบครัว และเผลอๆ เราอาจเป็นภาระต่อสังคมด้วยซ้ำ ดังนั้น การทำธุรกิจจึงควรได้รับผลตอบแทนเป็นกำไร กำไรเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ ธุรกิจที่ดีเป็นตัวขับเคลื่อนสังคม เราจึงเชื่อในหลักการว่า การทำธุรกิจที่ดี มันต้องคำนึงถึงสังคมด้วย ว่าสิ่งที่เราทำมีคุณค่ามีประโยชน์ต่อสังคมหรือเปล่า เราอยากเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่มีแต่คนรักคนสนับสนุน มากกว่ามีชื่อเสียง โด่งดังแต่ไม่มีใครชอบ

ในสถานการณ์แบบนี้ คนส่วนใหญ่ในสังคมได้รับผลกระทบเช่นกันกับเรา บางคนรายได้ลดลง หรือไม่มีรายได้เลย เราเข้าใจดีว่า มันไม่ใช่ช่วงเวลาแห่งการกอบโกย หรือคาดหวังแต่เรื่องผลกำไร มันเป็นช่วงที่ต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม อะไรที่พอช่วยเหลือกันได้ ก็ต้องช่วยกัน ถ้าสังคมรอด เราก็รอดด้วยเช่นกัน สิ่งที่เราช่วยได้ เราจะทำสุดความสามารถอย่างเต็มที่และเต็มใจ โดยไม่ได้ยึดเรื่องกำไรเป็นหลัก เพราะเรามั่นใจว่า ทุกสิ่งที่ตัดสินใจทำ ได้คิดพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว จนได้จุดสมดุลของเรา เราจึงทำทุกอย่างแบบประมาณกำลังตน และไม่เบียดเบียนตัวเองจนทุกข์

สิ่งที่แบรนด์ของคุณจะเปลี่ยนไปหลังจากนี้คือเรื่องอะไรบ้าง?
ในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเน้นการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ปัจจุบัน แต่โดยแก่นของการทำธุรกิจยังคงเดิมเราแบ่งการปรับเปลี่ยนเป็น 2 ส่วน
1. ในส่วนของการให้บริการ
- ปรับระบบการเช็กอินเข้าห้องพักแบบ Self Service check in
- อำนวยความสะดวกในห้องพักให้มากที่สุด เพื่อลดการใช้พี้นที่ส่วนกลาง
- เข้มงวดเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยมากขึ้นกว่าเดิม
- ลดการใช้เงินสด หาระบบรองรับการจ่ายเงินของลูกค้าทุกช่องทางที่สะดวก
- แม้จะปิดการขายห้องพักรายวันชั่วคราว แต่ยังคงสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเก่า และเพิ่มการรู้จักกับลูกค้าใหม่ผ่านทุกช่องทาง Social Media ของเราเพื่อรักษาแบรนด์ไว้
- ในส่วนของการขายอาหาร จะมุ่งเน้นในการทำธุรกิจในส่วนของ Deilivery มากขึ้น
2. ในส่วนตัวบุคลากร
- เราต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องการทำอาหาร เพราะเป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่ง
- ศึกษาความรู้เรื่องการทำ Digital Business